ชิ๊ปเพิร์กเป็นสุนัขที่กระตือรือล้นและอยากรู้อยากเห็น มีแนวโน้มที่ดื้อดึงบ้างบางครั้ง เขาเป็นสุนัขในอุดมคติสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสุนัขขนาดเล็ก ที่กระตือรือล้นและไม่ต้องการสนามขนาดใหญ่ไว้ออกกำลังกาย

ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ชิ๊ปเพิร์กเป็นที่นิยมบนเรือและได้ถูกเรียกว่า "ชิ๊ปเพิร์ก" ซึ่งหมายถึง "กัปตันตัวน้อย" ในภาษาเฟรมิส (Flemish)
ขนาด:
น้ำหนัก:
เพศผู้: 13 - 16 ปอนด์
เพศเมีย: 12 - 15 ปอนด์
ความสูง:
เพศผู้: 12 นิ้ว
เพศเมีย: 11 นิ้ว
ลักษณะเด่น:
หูตั้ง (โดยธรรมชาติ)
ความคาดหวัง:
การออกกำลังกาย: 40 นาที/วัน
ระดับพลังงาน: มีพลังงานมาก
อายุขัยเฉลี่ย: 12 - 16 ปี
น้ำลายสอ: ต่ำ การกรน: ต่ำ
การเห่า: สูง
การขุด : ต่ำ ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
สายพันธุ์เพื่อการ:
เฝ้าเรือ (Barge watchdog)
ขน
ความยาว: ปานกลาง
ลักษณะ: สองชั้น ตรง
สี: ดำ
การดูและรักษาความสะอาด: ปานกลาง
การขึ้นทะเบียนของสมาคม
การจัดกลุ่มตาม American Kennel Club (AKC): ไม่ใช่เพื่อการกีฬา (Non-sporting)
การจัดกลุ่มตาม United Kennel Club (UKC): สุนัขคู่หู (Companion Dog)
อัตราการพบ: ปกติ
ชิ๊ปเพิร์ก (ออกเสียงว่า สกิพ - เปอร์ - คีย์) เป็นสุนัขขนาดเล็กมีน้ำหนักระหว่าง 12 ถึง 16 ปอนด์ (5 ถึง 7 กิโลกรัม) เพศผู้มีความสูงระหว่าง 11 ถึง 13 นิ้ว และเพศเมียจะเตี้ยกว่าเล็กน้อยคือมีความสูงระหว่าง 10 ถึง 12 นิ้ว
ชิ๊ปเพิร์กมีโครงร่างที่โดดเด่น มีลาดโค้งจากส่วนที่สูงทีสุดของหลังไปจนถึงฐานของหาง เขามีศรีษะเหมือนสุนัขจิ้งจอก อกลึก เท้าเล็กและไม่มีหาง โดยใหญ่จะเกิดมาพร้อมกับหางแต่ว่าถูกตัดทิ้งให้เหลือเพียงหนึ่งนิ้ว สุนัขพันธุ์นี้จะโตเต็มวัยเมื่ออายุ 1 ถึง 2 ปี ถึงแม้ว่าร่างกายจะโตเต็มที่เมื่อมีอายุ 6 ถึง 8 เดือน
ชิ๊ปเพิร์กมีขนสองชั้น ขนชั้นนอกมีความยาวปานกลาง และมีขนชั้นล่างหนา สีดำล้วน ง่ายต่อการดูแลรักษาเพียงแค่การแปรงและหวีสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เขามีขนเป็นพวงหนาที่คอ อกและยาวลงไปถึงแขนและขา เขาผลัดขนสองครั้งต่อปี ชิ๊ปเพิร์กต้องการการอาบน้ำเดือนละหนึ่งครั้งหรือมากกว่านั้นหากว่ามันสกปรก
ลักษณะนิสัย:
ชิ๊ปเพิร์กเป็นสุนัขที่กระตือรือล้นและกระฉับกระเฉง เนื่องจาก่เขามีพื้นฐานจากการเป็นสุนัขคู่หู เขาจึงชอบที่จะอยู่กับเจ้าของ เขาฉลาดมากและต้องกากิจกรรมให้ทำเพื่อให้ยุ่งอยู่เสมอ เป็นการป้องกันพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เช่น เห่ามาเกินไป กัดแทะ หรือว่าขุด
ชิ๊ปเพิร์กเป็นสุนัขที่ฉลาดแต่บางครั้งก็อาจดื้อบ้าง เจ้าของมือใหม่อาจจะฝึกเขาได้ลำบากหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากครูฝึกมืออาชีพ ชิ๊ปเพิร์กจำเป็นต้องมีสนามหญ้าเพื่อการออกกำลังกาย และควรต้องอยู่ในสายจูงหากไม่ได้อยู่ในพื้นที่ปิด เนื่องจากเขาอาจจะไม่กลับมาหาแม้ว่าเราจะเรียกก็ตาม
อาศัยกับ:
สุนัขพันธุ์นี้ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอย่างมาก เขาอาจจะก้าวร้าวได้ดังนั้นจึงความที่จะฝึกการเข้าสังคมกับสุนัขตัวอื่นก่อนที่จะพาสุนัขตัวอื่นมาเลี้ยงที่บ้าน เนื่องจากเขาเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้สำหรับล่าสัตว์จำพวกหนูในเรือและตามร้านค้า ชิ๊ปเพิร์กมีแรงขับเคลื่อนในการล่าสัตว์ขนาดเล็ก นกและสัตว์เลื้อยคลานดังนั้นจึงควรแยกเขาให้ออกจากสัตว์เหล่านี้
"เขาเป็นสุนัขเฝ้าระวังที่ดี แต่มีแนวโน้มที่จะเห่ามากเกินไป จึงควรแยกเขาจากคนแปลกหน้า ขนาดของเขาทำให้เขาทำให้เขาไม่ใช่สุนัขอารักขาที่ดี เขาไม่สามารถจะจัดการกับการคุกคามได้และอาจจะกัดได้หากว่าถูกแหย่หรือทำให้ตกใจ เขาเป็นสุนัขในอุดมคติสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสุนัขขนาดเล็ก ที่กระตือรือล้นและไม่ต้องการสนามขนาดใหญ่ไว้ออกกำลังกาย เขาชอบเดินเล่นและเล่นเกมวิ่งไล่ของ เขาไม่เหมาะกับการถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวเป็นเวลานาน และมีอายุขัยเฉลี่ยระหว่าง 12 ถึง 16 ปี"
ประวัติ:
"ชิ๊ปเพิร์ก เป็นสุนัขสายพันธุ์เบลเยี่ยมเก่าแก่ที่มีประวัติสืบย้อนกลับไปได้หลายร้อยปี มีการกล่าวถึงชิ๊ปเพิร์กเป็นครั้งโดยนักบวชในช่วงคริสตศักราชี่ 1400 ต่อมาในปีค.ศ. 1690 คนงานในกรุงบรัสเซลส์ได้จัดการแสดงสุนัขชิ๊ปเพิร์กขึ้น ซี่งเป็นที่รู้จักในนามของ spits หรือ spitske"
ชิ๊ปเพิร์กเป็นที่นิยมบนเรืออย่างรวดเร็วและได้ถูกเรียกว่า "ชิ๊ปเพิร์ก" ซึ่งหมายถึง "กัปตันตัวน้อย" ในภาษาเฟรมิส (Flemish) (ภาษาเฟรมิสจะออกเสียงว่า สกิพ - เปอร์ - คีย์) หรือเรียกว่า สุนัขเรือคาเนล (canal boat dog) นอกจากนี้สุนัขพันธุ์นี้ยังเป็นที่นิยมในบรรดาพ่อค้าอีกด้วย
ในปีค.ศ. 1885 พระราชินี เฮนเรียตตา มาเรีย ซึ่งเป็นพระมเหสีของสมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโปลด์ที่ 2 ทรงพอพระทัยใจสุนัขขนาดเล็กพันธุ์นี้ จึงทำให้เป็นที่นิยมในชนชั้นสูงและแพร่ไปยังประเทศอังกฤษอย่างรวดเร็ว Walter J. Comstock ได้นำชิ๊ปเพิร์กเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1888 และ the Schipperke Club of America ไดจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1929