ข้อมูลเกี่ยวกับ บาเซนจิ และลักษณะนิสัย

บาเซนจิ เป็นหนึ่งในสุนัขที่พันธุ์เล็กที่สุดในกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ ซึ่งระดับความสูงตั้งแต่ 16-17 นิ้วและน้ำหนัก 22-24 ปอนด์ (10-11 กิโลกรัม)

Tเขามีหูตั้งตรงขนาดใหญ่และหน้าผากตึง แต่จะมีรอยย่นเมื่อตื่นตัว บางคนรู้สึกว่าหูมีขนาดใหญ่อาจช่วยในการกระระบายความร้อน สายพันธุ์ที่ตำแหน่งหัวสูง ขายาว หลังสั้นและหางขดแน่น ซึ่งทำให้มันมีรูปร่างดูเป็นเหลี่ยมๆ

ด้วยขาที่ยาวของเขาเมื่อเทียบกับขนาดโดยรวมทำให้ บาเซนจิ มีความรวดเร็วและความคล่องตัว ในขณะที่เขาก็เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่า แต่เขาสามารถ "โห่"และหอน ซึ่งทำให้เขาไม่ได้ถูกมองว่าเป็นใบ้

มีขนสั้นสม่ำเสมอและเรียบเนียน อาจจะมีสีแดง ดำ ดำและแทน หรือเป็นลายโดยทุกสีจะมีสีขาวเป็นจุดเด่น โดยทั่วไปแล้วเท้าและขาของเขาก็มักจะมีสีขาว และบ่อยครั้งที่จะเห็นตัวที่มีสีขาวที่คอเหมือนสายสร้อย

ลักษณะนิสัย: 

เขาเป็นสุนัขที่ชอบสันโดด แต่ก็มีความน่ารัก และยังสามารถที่จะแสดงความก้าวร้าวเวลาปกป้องคนในครอบครัว แต่เขาไม่ใช่สุนัขที่จะเข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ ต้นกำเนิดของพวกเขานั้นมักจะล่าเป็นฝูงหรือร่วมกับสายพันธุ์อื่นถ้าหากเขาคุ้นเคยตั้งแต่ยังเล็ก แต่อย่างไรก็ดี บางครั้งเขาก็อาจจะทะเลาะกันเองกับบาเซนจิตัวอื่นๆ

บาเซนจิ เป็นสุนัขที่ฉลาด แต่การฝึกพวกเขานั้นก็ไม่ง่าย เขาต้องการการสร้างสัน ดังนั้นเจ้าของหรือคนฝึกต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการที่จะดึงความสามารถอันน่าทึ่งของเขาออกมา ดังที่ได้กล่าวไว้ว่า พวกเขาไม่ค่อยเห่า แต่จะโห่แทนซึ่งมักจะมีเสียงที่ค่อนข่างเบา ถ้าเขาถูกปล่อยไว้ตามลำพังมันก็มักจะหาอะไรมาเคี้ยวเล่นหรือขุดหลุม

คนที่เพาะพันธุ์ บาเซนจิ ได้เปรียบเทียบสุนัขพันธุ์นี้เหมือน "แมว" เพราะมีนิสัยชอบเลียขนตัวเองและเงียบขรึม และชอบที่จะปีนป่ายไปยังที่สูงๆ บางทีมันอาจจะอยากสำรวจอาณาจักรของเขาจากบนนั้นก็เป้นได้

อาศัยกับ: 

บาเซนจิ เป็นสุนัขที่ต้องการความเพลิดเพลิน หรือการได้วิ่งเล่น เขายังชอบฝึกความคล่องแคล่วเช่นการล่อให้เขาวิ่งในสวน บาเซนจิ ไม่ค่อยถูกใช้ในการล่าสัตว์เหมือนในสมัยก่อน ซึ่งเขาได้ถูกนำมาใช้เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านมากกว่า และมีอายุเฉลี่ยราว 13 ปี

บาเซนจิสามารถปกป้องครอบครัวได้อย่างดุร้าย เขาต้องการการฝึกเขาสังคมกับคนอื่นตั้งแต่แรกอย่างมาก เพื่อให้เขาเป็นเพื่อนคู่หูในอุดมคติ บุคคลิกลักษณะที่ไม่ปกติของบาเซนจิคือเพศเมียจะมีช่วงติดสัดเพียงช่วงเดียวของปี และจะเกิดขึ้นระหว่างเดื่อนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งในช่วงนั้นเขาเขาจะขึ้นชื่อเรื่องการส่งเสียงโห่ (ร้อง)

บาเซนจิดูแลรักษาความสะอาดง่าย แค่เพียงการเช็ดด้วยผ้าหรือแปรงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งบาเซนจิใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขาในการทำความสะอาดและค่อยเลียขนของเราเช่นเดียวกับแมว

ประวัติ:

บาเซนจิเป็นสุนัขโบราณที่สามารถสืบย้อนตั้งแต่การเป็นสุนัขพันธุ์ทางที่ผสมหลายสายพันธุ์ไปจนถึงยุดอียิปต์ และถึงการเป็นสุนัขล่าสัตว์สำหรับชนเผ่าในคองโก วิ่งได้อย่างเงียบๆ (เขาสามารถส่งเสียงได้ แต่ว่าโดยปกติไม่เห่า) สุนัขบาเซนจิส่วนใหญ่จะสวมใส่กระดิ่งเพื่อใช้ตื่นเจ้าของว่าเขาอยู่ตรงจุดไหนในป่าลึก เขาเป็นรู้จักแม้กระทั่งในปัจจุบันว่ามีสายตาที่เฉียบคมและมีความสามารถในการรับกลิ่นที่เยี่ยมยอด

บาเซนจิได้รับการตั้งชื่อนี้จาก Mrs. Burn ในประเทศอังกฤษราวปีค.ศ. 1936 ซึ่งเป็นที่รู้จักในตอนนั้นว่าเป้นสุนัขคองโก หรือ Congo derrier คำว่า ""บาเซนจิ"" หมายถึง ""สุนัขในพุ่มไม้"" (dog of the bush) ในภูมิภาคนั้นของแอฟริกา สายพันธุ์นี้ถูกจัดอยู่ในหมวดของสุนัขล่าสัตว์เนื่องจากสัญชาตญาณนักล่าของเขา แต่หากยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าแท้จริงแล้ว เขาอยู่ในหมวด สุนัขล่าสัตว์ด้วยสายตา (sighthound) หรือ สุนัขล่าสัตว์จากดมกลิ่น (scenthounds)  แต่บางคนกลับรู้สึกว่าเขาอยู่ในกลุ่มเทอร์เรียร์ 

ในช่วงทศวรรษที่ 1980 สุนัขบาเซนจิหลายตัวได้ถูกนำเข้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกาจากซาอิ (Zaire) และได้ถูกเพิ่มเข้าในการเชื่อมพันธุ์กรรม (gene pool) ของ AKC เพื่อช่วยในการต่อสู้กับปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพบางชนิดของสุนัข ซึ่งเพิ่มโปรแกรมนี้จึงเกิดเป็นบาเซนจิที่มีลาย เป็นเวสเทิร์นบาเซนจิ (Western Basenji) สุนัขพันธุ์นี้จัดว่าอยู่ในกลุ่มของสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมทั้งกรรมพันธุ์และการพัฒนาสายพันธุ์ ทั้งนี้บาเซนจิแตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์พื้นเมืองทั่วไปที่จะมีช่วงฤดูกาลผสมพันธุ์เพียงปีละหนึ่งครั้ง