บอสตัน เทอร์เรียร์ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหาเพื่อนคู่หูที่ร่าเริง กระตือรือล้น ขี้เล่น และสนุกสนาน
บอสตัน เทอร์เรียร์ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว และไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่ข้างนอกลำพัง หากไม่มีรั้วกันหรือว่าสายจูง
ขนาด:
น้ำหนัก:
เพศผู้: 15-25 ปอนด์
เพศเมีย: 10-20 ปอนด์
ความสูง:
เพศผู้: 17 นิ้ว
เพศเมีย: 16 นิ้ว
ลักษณเด่น:
หน้าเหลี่ยม (Brachycephalic) หูตั้งขึ้น (โดยธรรมชาติ)
ความคาดหวัง:
การออกกำลังกาย: <20-40 นาที/วัน
ระดับพลังงาน: ปานกลาง
อายุขัยเฉลี่ย: 10-14 ปี
น้ำลายสอ: ต่ำ การกรน: สูง
การเห่า: ปานกลาง
การขุด : ต่ำ ความต้องการการเอาใจใส่: ปานกลาง
สายพันธุ์เพื่อการ
ล่าหนู (Ratting) และเพื่อนคู่หู
ขน
ความยาว: สั้น
ลักษณะ: เรียบ
สี: ลายกับขาว สีแมวน้ำกับขาว สีดำกับขาว
การดูและรักษาความสะอาด: ปานกลาง
การขึ้นทะเบียนของสมาคม
การจัดกลุ่มตาม American Kennel Club (AKC): ไม่ใช่เพื่อการกีฬา (Non-sporting)
การจัดกลุ่มตาม United Kennel Club (UKC): เพื่อนคู่หู (Companion)
อัตราการพบบ่อย: ปกติ
บอสตัน เทอร์เรียร์มีน้ำหนัก 3 ขนาด ได้แก่ ต่ำกว่า 15 ปอนด์ (7 กิโลกรัม) 15 ถึงต่ำกว่า 20 ปอนด์ (7 ถึง 9 กิโลกรัม) และ 20 ถึง 25 ปอนด์ (9 ถึง 11 กิโลกรัม)
เพศผู้มีความสูงประมาณ 17 นิ้ว และเพศเมียสูงประมาณ 16 นิ้ว
บอสตันเป็นสุนัขที่กระทัดรัด มีสัดส่วนที่ดี อกกว้าง ศรีษะทรงเหลี่ยมและแบนเรียบด้านบน ปากเหลี่ยม สั้นและกว้าง ดวงตาเข้ม กลม ขนาดใหญ่ หูเล็กตั้งเหมือนหูค้างคาว แม้ว่าบางตัวอาจจะมีหูพับและก็จะถูกดัดให้ตั้งขึ้น หางสั้นตรงหรือที่เรียกว่าเป็นจุกไขก๊อก (corkscrew)
ขนของบอสตัน จะสั้น เรียบ มีทั้งแบบลายมีแต้มสีขาว ดำพร้อมแต้มสีขาว หรือสีแมวน้ำ (ดำผสมแดง)พร้อมแต้มสีขาว
ลักษณะนิสัย:
บอสตัน เทอร์เรียร์ ขี้เล่น และมีธรรมชาติที่ดี เขาเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหาเพื่อนคู่หูที่ร่าเริง และสนุกสนาน
บอสตันเข้าได้ดีกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น แม้กระทั่งแมว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเลี้ยงมาด้วยกัน เนื่องจากเขามีรูปร่างกำยำ บอสตันอาจจะอดทนต่อเด็กได้มากกว่าสุนัขขนาดเล็ก หากเด็กปฏิบัติกับเขาอย่างดี เขาจะชอบไปไหนมาไหนกับเด็ก บอสตันสนุกกับการฝังกระดูกไว้ใต้หมอนหรือในเตียงดอกไม้ แต่เกมที่เขาชื่นชอบคือการไล่เก็บของ
อาศัยอยู่กับ:
บอสตันต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่เป็นเพียงในระยะเวลาสั้นๆ เช่นการไล่เก็บของ หือการเดินระยะกลาง หรือการออกกำลังกายที่กระฉับกระเฉงก็เพียงพอ บอสตันถือว่าเป็นสุนัขที่ฉลาด สามารถฝึกได้ แต่เขาอาจจะดื้อบ้างบางครั้ง เขาอาจจะรู้จักคำว่า "นั่ง" "อยู่เฉย" แต่เขาไม่ใช่ว่าจะเชื่อฟังเมื่อคุณสั่งเสมอไป บอสตัน เทอร์เรียร์ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว และไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่ข้างนอกลำพัง หากไม่มีรั้วกันหรือว่าสายจูง นอกจากนี้เขามักจะเห่าหากว่ามีเสียงเคาะประตูที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่เขาไม่ใช่สุนัขที่จะปกป้องได้ดี พวกเขามักจะต้องรับใครก็ตามที่มาที่บ้านไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู
ด้วยหน้าที่สั้น จึงควรระมัดระวังเกี่ยวกับอาการ overheated นอกจากนี้บอสตันยังจามได้ง่าย ดังนั้นจึงควรป้องกันเขาจากอากาศที่หนาวด้วย เขาเป็นสุนัขที่ควรเลี้ยงในบ้านไม่ใช่นอกบ้าน บอสตันอาจกรนได้ แต่สิ่งเหล่านี้มักที่จะดูเป็นสิ่งที่น่ารักมากกว่าสิ่งที่รบกวนใจ
บอสตันยังเป็นนักกินตัวยง บางตัวมีระบบการย่อยอาหารเฉพาะ และอาจมีแนวโน้มมีมีก๊าซในกระเพาะอาหาร เมื่อคุณสามารถหาอาหารที่เขาชื่นชอบและคุณเห็นด้วย การให้อาหารเขาจะเป็นสิ่งที่ง่ายดายมาก หากได้รับการผสมพันธุ์เขาจะมีลูกสุนัขครอกเล็กๆเพียงแค่ 3- 4 ตัวเท่านั้น การคลอดลูกของสุนัขพันธุ์นี้จะเป็นไปได้ยากและมักจบลงด้วยการผ่าตัดเสมอ เขามีอายุขัยเฉลี่ยระหว่าง 10 - 13 ปี
การอาบน้ำบ้างในบางครั้ง การขัดและถูโดยถุงมือทำความสะอาด ก็เพียงพอแล้วสำหรับการรักษาสุขภาพขนให้ดีอยู่เสมอ และช่วยควบคุมการผลัดขน ซึ่งเกิดน้อยมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้
ประวัติ:
บอสตัน เทอร์เรียร์ได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นที่กรุงบอสตัน ในช่วงคริสตศักราชที่ 1800 จากการผสมพันธุ์ระหว่างบลูด๊อก และไวท์ อิงลิช เทอร์เรียร์ สายพันธุ์นี้เป็นเพียงหนึ่งในไม่กีสายพันธุ์ที่มีสายเลือดของอเมริกันโดยแท้ และมักจะถูกอ้างถึงว่าเป็นสุนัขแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา
บอสตันยังถูกเรียกด้วยชื่ออื่นๆ บางคนเรียกเขาว่า บอสตัน บลู นอกจากนี้พวกเขายังถูกเรียกว่าอเมริกัน บลู เทอร์เรียร์ แต่เจ้าของของทั้งสองสายพันธุ์นี้ไม่เห็นด้วย และในปีค.ศ. 1891 สุนัขพันธุ์นี้ได้รับชื่ออย่างเป็นทางการว่าบอสตัน เทอร์เรียร์ และได้รับการขึ้นทะเบียนโดย the American Kennel Club ในปีค.ศ. 1893
สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการยกย่องน่าหลงใหลและมีเสน่ห์ และขึ้นชื่อว่าเป็น "American gentleman" ด้วย
บอสตันเป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยในช่วงก่อนปีค.ศ. 1960 หลังจากนั้นก็ลดจำนวนลง ปัจจุบันเขาได้ปรากฎตัวในหลายรายการทีวี ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการกับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งของสุนัขสายพันธุ์นี้