"รู้หรือไม่ว่าจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในและบนร่างกายของคุณมีจำนวนมากกว่าเซลล์ในร่างกายอีก?
เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงของเรา การศึกษาทางวิทยาศาสตร์เรียกระบบนิเวศน์ของจุลินทรีย์เหล่านี้ว่า — Microbiome ของสัตว์เลี้ยง — ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับร่างกายของสัตว์เลี้ยง กล่าวคือ เมื่อไมโครไบโอมทำงานได้ดี ระบบต่างๆของร่างกายสัตว์เลี้ยงก็จะทำงานได้ดี และส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมด้วย
แล้วจริงๆ ไบโครไบโอม คืออะไร?
"ไมโคร" คือ อนุภาคขนาดเล็กมาก และ "ไบโอม" หมายถึงชุมชนธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศ ดังนั้นแนวคิดของ "ไมโครไบโอม" คือ ประชากรสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัวนับพันล้านตัวที่อาศัยและเจริญเติบโตในระบบนิเวศของพวกมัน ซึ่งก็คือ ร่างกายของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง
สิ่งที่น่าสนใจของ ไมโครไบโอม คือ คนและสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ร่วมกันจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันจุลินทรีย์ของกันและกันได้ ซึ่งไม่ว่ากลุ่มจุลินทรีย์เหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลอย่างไร ก็จะยังมีหน้าที่และการทำงานคล้ายคลึงกันในระบบนิเวศน์ของร่างกายอยู่ดี
คุณอาจจะเคยได้ยินเรื่อง ไมโครไบโอมในลำไส้หรือทางเดินอาหาร แต่แท้จริงแล้ว ไมโครไบโอมพบได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง ในช่องปาก หรือทางเดินหายใจ ซึ่งอวัยวะที่ต่างกันก็จะมีไมโครไบโอมที่แตกต่างกันด้วย เป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่า ไมโครไบโอมมีลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเอง
โดยปกติแล้ว ภายในระบบนิเวศของระบบทางเดินอาหารมีไมโครไบโอมในลำไส้ที่เจริญเติบโตได้ดี แต่จุลินทรีย์ในลำไส้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ลำไส้ใหญ่เป็นหลัก และมีปริมาณน้อยที่อาศัยในส่วนอื่น เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ส่วนบน
ไมโครไบโอมในสัตว์เลี้ยง?
สุนัขและแมวไม่ได้เกิดมาพร้อมกับไมโครไบโอม จริงๆแล้วลูกสุนัขและลูกแมว จะเริ่มสร้างไมโครไบโอมทันทีหลังคลอด โดยได้รับถ่ายทอดโดยตรงจากแม่ของมัน จากเจ้าของที่เลี้ยง หรือจากสภาพแวดล้อมรอบๆตัว ไมโครไบโอมในสัตว์เลี้ยงสามารถถูกสร้างขึ้นจากการสัมผัสสิ่งต่างๆรอบตัวในทุกๆวัน เช่นของเล่น, อาหาร, สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกบ้าน รวมถึงจากมนุษย์ด้วย
ไมโครไบโอมจะเติบโตไปพร้อมๆกับลูกสุนัขและลูกแมว และมักจะอยู่คงที่เมื่อสัตว์เลี้ยงโตเต็มวัยแล้ว นอกเสียจากว่าสัตว์เลี้ยงจะมีสุขภาพที่ไม่ดีจากการเจ็บป่วย หรือได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม
ไมโครไบโอมส่งผลต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยรวมอย่างไร?
งานวิจัยจาก Texas A&M Gastrointestinal Laboratory กล่าวว่าแบคทีเรียในลำไส้ไม่เพียงแต่ช่วยย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังสังเคราะห์วิตามินและกรดอะมิโนที่จำเป็น ช่วยป้องกันการติดเชื้อ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ไมโครไบโอมของสุนัขและแมวที่มีสุขภาพดีจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอาหารหรือโรคที่ทำให้ปริมาณและชนิดของจุลินทรีย์ในลำไส้แปรปรวน หรือโรคต่างๆ เกี่ยวข้องกับลำไส้ "dysbiosis" หมายความว่ามีการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบของไมโครไบโอมในลำไส้ที่ส่งผลต่อการทำงานของมัน ไมโครไบโอมสามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะเกือบทุกส่วนในร่างกายของสัตว์เลี้ยง ดังนั้นไมโครไบโอมที่สมดุลจึงมีความสำคัญโดยตรงต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยรวม
โภชนาการมีผลกระทบต่อไมโครไบโอติกอย่างไร?
อาหารถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่อสุขภาพและจำนวนประชากรของไมโครไบโอมในสัตว์เลี้ยง
แม้แต่สิ่งที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายอย่างการเปลี่ยนอาหารอย่างรวดเร็วก็สามารถเปลี่ยนแปลงไมโครไบโอมของพวกเค้าได้ หรือเพียงระดับที่แตกต่างกันของโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ล้วนมีอิทธิพลและเปลี่ยนแปลงความสมดุลของไมโครไบโอม แม้แต่การป้อนเศษอาหารบนโต๊ะอาหาร หรือการที่สัตว์เลี้ยงที่เข้าไปในถังขยะในครัว ก็สามารถทำให้เกิดอาการผิดปกติทางเดินอาหารซึ่งมีต้นกำเนิดในไมโครไบโอมที่ไม่ปกติได้
เมื่ออาหารหลายชนิดเข้าสู่ลำไส้ แบคทีเรียในลำไส้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ร่างกายผลิตก๊าซมากเกินไปและมีสารประกอบที่เกิดกลิ่นเหม็น และส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพอุจจาระของสัตว์เลี้ยง ดังนั้นการจัดการที่ดีที่สุดคือควรเผื่อช่วงเวลาในการเปลี่ยนอาหารใหม่ เพราะแบคทีเรียในลำไส้ต้องการเวลาในการปรับตัวและรักษาสมดุลด้วย
ทุกครั้งที่คุณให้อาหารสัตว์เลี้ยง เท่ากับคุณกำลังให้อาหารไมโครไบโอมไปด้วย ในงานวิจัยมีการค้นพบใหม่ๆเกิดขึ้นในทุกวัน ที่เกี่ยวกับบทบาทของการให้อาหารไมโครไบโอม และผลที่ได้ต่อสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยง
ที่ Hill's Global Pet Nutrition Center ทีมนักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการได้ศึกษาถึงผลของโภชนาการบางชนิดที่มีต่อไมโครไบโอมในระดับเซลล์ เราทำความเข้าใจถึงโภชนาการและเหล่าจุลินทรีย์ในร่างกาย เพื่อช่วยให้เราคิดค้นสูตรอาหารที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพของไมโครไบโอมให้มีความสมดุลและสุขภาพที่ดี เพื่อให้คุณมั่นใจว่า อาหารที่คุณให้มีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมสุขภาพองค์รวมที่ดีของสัตว์เลี้ยง