สุนัขติดหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ได้หรือไม่
สุนัขติดหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ได้หรือไม่
ในแต่ละปีก็จะมีช่วงเวลาหนึ่งที่คุณหรือสมาชิกในครอบครัวจะต้องเป็นหวัด ยิ่งเวลาที่คุณไม่สบายก็อาจจะสงสัยว่าสุนัขที่เรารักติดหวัดเหมือนกับเราได้หรือไม่ แน่นอนว่าคุณรักสัตว์เลี้ยงของคุณและต้องการให้เค้าสุขภาพดี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องแยกกับสัตว์เลี้ยงจนกว่าคุณเองจะหายป่วยหรือไม่ นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยของสุนัขและวิธีการรักษา
โคโรน่าไวรัสคืออะไร?
เจ้าของสัตว์เลี้ยงอาจจะมีความกังวลว่าสัตว์เลี้ยงจะติด COVID-19 ได้ จากการแพร่เชื้อจากเจ้าของไปสู่สัตว์เลี้ยง ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสุนัข แมว อาหาร หรือบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารเป็นต้นเหตุที่ทำให้มนุษย์หรือสัตว์ติดเชื้อ แต่สถานการณ์ COVID-19 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization; WHO)
จนถึงวันนี้ องค์กร U.S. Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ยังไม่พบรายงานว่าสัตว์ในประเทศสหรัฐอเมริกาติดไวรัสชนิดนี้ และยังไม่พบการติดเชื้อหรือแพร่กระจายจากสุนัขและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ไปสู่มนุษย์ แต่ถ้าหากคุณยังมีข้อกังวลอยู่ โปรดปรึกษาสัตวแพทย์
สุนัขติดหวัดจากมนุษย์ได้หรือไม่?
ฮัดชิ่ว! คุณจามใช่มั้ย? คุณคัดจมูกหรือเจ็บคอรึเปล่า? เราจะพบว่าคนสามารถติดหวัดได้เมื่ออยู่ใกล้คนที่ป่วยเป็นหวัด ซึ่งอาการที่พบได้นอกเหนือจากการจาม เจ็บคอหรือคัดจมูก ก็คือมีน้ำตาหรือน้ำมูกไหลตลอดเวลา หรือมีเสมหะในคอ
แล้วสุนัขจะสามารถติดหวัดจากเจ้าของได้หรือไม่?
เวปไซด์ PetMD กล่าวว่า นี่คือข่าวดี เมื่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงป่วย จะสามารถอยู่ใกล้ชิดและแสดงความรักกับสัตว์เลี้ยงได้ตามปกติ เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด จะติดต่อระหว่างสายพันธุ์เดียวกันเท่านั้น นี่คือสาเหตุที่เราไม่ต้องกังวลว่าสุนัขจะติดหวัดจากคน เพราะเป็นการแพร่เชื้อจากคนสู่คนเท่านั้น ไม่สามารถแพร่เชื้อจากคนไปสู่สัตว์ได้
สุนัขสามารถติดหวัดจากสุนัขตัวอื่นได้หรือไม่? คำตอบ คือ ใช่! เวปไซด์ PetMD อธิบายว่า ในขณะที่คนไม่สามารถแพร่เชื้อสู่สัตว์เลี้ยงได้ แต่สัตว์เลี้ยงสามารถแพร่เชื้อให้สัตว์เลี้ยงด้วยกันเองได้ ในความเป็นจริง อาการป่วยของสุนัขจะใกล้เคียงกับมนุษย์ ถึงแม้ว่าจะมีไวรัสหลายชนิดที่ทำให้คนและสุนัขเป็นหวัด แต่อาการที่เกิดขึ้นจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน นั่นก็คือ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกหรือน้ำตาไหล ซึ่งมีไวรัสหลายชนิดที่สุนัขสามารถแพร่เชื้อให้กับสุนัขด้วยกันเอง นี่คือโรคหวัดทั่วไปที่พบได้ในสุนัข :
หลอดลมอักเสบในสุนัข (Kennel Cough)
เวปไซด์ Vetstreet กล่าวว่า โรคหลอดลมอักเสบในสุนัขเป็นโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจที่สามารถติดต่อกันได้ง่าย มักจะพบได้ในสุนัขที่มาอยู่ร่วมกับสุนัขจำนวนมากในที่เดียวกัน เช่น งานประกวดสุนัข หรือ ชั้นเรียนฝึกสุนัข การแพร่เชื้อที่ง่ายที่สุดคือเมื่อสุนัขสัมผัสโดยตรงกับสุนัขที่ป่วย ไวรัสจะมีชีวิตอยู่ได้บนสิ่งของรอบๆ ตัว เช่น ชามใส่น้ำ หรือ ของเล่นชิ้นโปรดที่เต็มไปด้วยน้ำลายของสุนัขป่วย อาการที่พบได้บ่อย คือ สุนัขจะมีอาการไอเสียงดังเหมือนห่านร้อง เนื่องจากสุนัขจะพยายามไอเพื่อขับสิ่งที่ติดอยู่ในลำคอออกมา โดยปกติสุนัขที่ใกล้ชิดกับสุนัขตัวที่ป่วย จะแสดงอาการภายใน 4 - 10 วัน การรักษาก็คือการเฝ้าดูอาหารเพื่อจ่ายยาปฏิชีวนะ
สุนัขสามารถติดหวัดจากมนุษย์ได้หรือไม่?
สมาคม American Lung Association กล่าวว่า ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่ของมนุษย์มีอาการคล้ายกับหวัดทั่วไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกเป็นไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ก็อาจจะมีโอกาสเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ ไวรัสที่ทำให้เกิดหวัดจะแพร่จากคนสู่คนจากการไอและจาม ซึ่งสามารถลดการแพร่เชื้อได้ด้วยการปิดปากทุกครั้งเมื่อไอและจาม หวัดทั่วไปจะหายได้ง่าย แต่ไข้หวัดจะใช้เวลานานกว่าหายและอาจนำไปสู่อาการที่รุนแรงขึ้น เช่น ปอดอักเสบ
คุณอาจจะดีใจที่ได้รู้ว่าสุนัขจะไม่มีอาการหวัดเช่นเดียวกับที่คุณเป็นหวัด อย่างไรก็ตาม คุณควรสังเกตอาการต่อไปนี้เมื่อสุนัขของคุณเป็นไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่สุนัข
ไข้หวัดใหญ่สุนัข เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเช่นเดียวกับมนุษย์ สมาคม American Veterinary Medical Association (AVMA) กล่าวว่า มีรายงานการติดเชื้อในช่วงต้นปี 2004 ว่ามีการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H3N8 จากนั้น ในปี 2015 เกิดการระบาดครั้งใหญ่ที่เมืองชิคคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเริ่มจากไข้หวัดสุนัข H3N2 อาการไข้หวัดที่เกิดขึ้นคล้ายกับที่เกิดในมนุษย์ สุนัขอาจจะมีอาการไอยาวนานถึง 10 - 30 วัน เริ่มต้นจากการจาม แล้วก็เป็นไข้ หรือน้ำมูกหรือน้ำตาไหล โดยสัตวแพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะหรือยาอื่นๆ เพื่อทำการรักษาไข้หวัดสุนัข สิ่งที่ต้องระวังเมื่อสุนัขป่วย คือ ต้องแยกตัวสุนัขที่ป่วยออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคไปสู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ
การไปพบสัตวแพทย์
คุณสามารถดูแลสุนัขที่ป่วยได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับการดูแลลูกของคุณเมื่อเค้าป่วย
ขั้นแรก ถ้าคุณสงสัยว่าสุนัขของคุณป่วย ติดต่อสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในขั้นตอนต่อไป การวินิจฉัยโรคจะต้องทำโดยสัตวแพทย์เท่านั้น และเริ่มต้นให้การรักษา สัตวแพทย์จะแนะนำให้คุณดูแลให้สัตว์เลี้ยงของคุณพักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการฟื้นฟูอาการป่วย สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ คือ พูดคุยกับสมาชิกในบ้านของคุณไม่ให้รบกวนสัตว์เลี้ยง การพักผ่อนนั้นสำคัญมากในการฟื้นตัวของสัตว์ป่วย แต่คุณไม่ต้องกังวลว่าไวรัสนี้จะติดต่อจากสุนัขไปสู่สมาชิกในบ้าน คุณสามารถแสดงความรักและดูแลเค้าได้อย่างเต็มที่เพื่อให้เค้าหายป่วย และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้เค้าไม่ขาดน้ำ จึงจำเป็นที่จะต้องใส่น้ำให้เต็มชาม และพยายามให้เค้ากินน้ำบ่อยๆ
ถ้าหากสุนัขของคุณจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสุนัขตัวอื่นๆ อยู่เป็นจำนวนมาก หรือต้องอยู่ในสถานที่รับเลี้ยงสุนัข ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าเค้าหายป่วยและมีสุขภาพดีที่จะอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นๆ เพราะคุณเองก็ไม่อยากให้สุนัขป่วยตัวอื่นๆ มาอยู่ใกล้สุนัขของคุณที่สุขภาพดี แน่นอนว่าในระหว่างนี้งดพาไปเดินเล่นในสวนสาธารณะจนกว่าจะหายป่วย
เมื่อสุนัขของคุณได้รับยารักษาตามอาการ กินอาหารที่ดี กินน้ำเยอะๆ พักผ่อนเพียงพอ สุนัขของคุณก็จะหายป่วยและกลับไปเล่นสนุกได้เหมือนเดิมแล้ว!
Contributor Bio
Erin Ollila
Erin Ollila นักเขียนที่มีความชื่นชอบเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเป็นพิเศษ เธอเชื่อในพลังของตัวอักษรที่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องไปจนถึงปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของผู้อ่านดีขึ้น สามารถค้นหาผลงานเขียนของเธอได้ในอินเตอร์เน็ทและหนังสือ ติดตามผลงานของเธอได้ที่ Twitter @ReinventingErin และเว็บไซต์ http://erinollila.com.