ทำไมจึงจำเป็นต้องเข้าใจโรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว
พฤติกรรมการปัสสาวะที่ไม่เหมาะสมเป็นปัญหาอันดับหนึ่งในแมว แมวจำนวนมากถูกส่งไปศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงเพราะการปัสสาวะนอกกระบะทราย หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง การปัสสาวะที่ไม่เหมาะสมอาจมีผลต่อความสะอาด/ความปลอดภัยในบ้านของคุณและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแมว ข่าวดีคือปัญหานี้มักเกิดจากโรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว (FLUTD) และโรคนี้สามารถรักษาได้
อะไรคือสาเหตุของโรคระบบทางเดินปัสสาวะ
โรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมวเป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โรคระบบทางเดินปัสสาวะในแมวไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว สัตวแพทย์ทราบดีว่ามีหลายองค์ประกอบที่อาจก่อให้เกิดโรคนี้ คุณสามารถติดต่อสัตวแพทย์เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ปัจจัยเสี่ยงของโรคได้แก่
- แมวที่มีอายุเกิน 1 ปีมีโอกาสเป็นโรคมากที่สุด
- แมวที่น้ำหนักเกิน ขาดการออกกำลังกาย
- เคยเป็นโรคไตเรื้อรังหรือมีปัญหาการทำงานในระบบทางเดินปัสสาวะ
- ทั้งแมวเพศผู้และเพศเมียมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้เท่ากัน แต่แมวเพศผู้ที่ทำหมันแล้วมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะเกิดก้อนผลึกหรือเป็นโรคนิ่วอุดตันท่อปัสสาวะซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
ปัจจัยเสี่ยงจากโภชนาการ
คุณทราบแล้วว่าอาหารที่คุณให้แมวของคุณกินมีความสำคัญมากสำหรับสุขภาพโดยรวมของเจ้าเหมียว แต่การให้อาหารที่ผิดๆ สามารถส่งผลทำให้เกิดโรคระบบทางเดินปัสสาวะได้ (FLUTD) สิ่งที่ตามมาของโรค FLUTD คือผลึกหรือนิ่วที่ก่อตัวภายในระบบทางเดินปัสสาวะ และก่อให้เกิดการระคายเคือง อาการเจ็บปวด และนำไปสู่การอุดตันได้ ในกรณีที่เลวร้ายอาจนำไปสู่ภาวะไตวายหรืออาจทำให้เสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
- การได้รับแร่ธาตุบางอย่างในปริมาณมาก เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม (อาหารแมวแบรนด์ที่มักพบในร้านขายของชำทั่วไป) สามารถก่อให้เกิดผลึกในปัสสาวะซึ่งบางครั้งนำไปสู่โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- อาหารที่มีผลต่อค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) หรือความเป็นกรดของปัสสาวะ ปัสสาวะควรมีค่าความเป็นกรดปานกลางเพื่อสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินปัสสาวะ เพราะจะทำให้ผลึกสตรูไวท์ก่อตัวได้ยากขึ้นในสภาวะความเป็นกรด
ปัจจัยเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่บ้าน
- แมวที่อยู่แต่ในบ้าน
- บ้านที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงหลายตัว
- ความเครียด: สาเหตุอาจมาจากแขกที่มาเยี่ยมบ้าน ความขัดแย้งกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ หรือการขาดสถานที่พักผ่อนหรือที่ซ่อนตัว
- การดื่มน้ำไม่เพียงพอสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินปัสสาวะในแมวได้
- แมวอาจกลั้นปัสสาวะซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบที่เจ็บปวดได้
- แมวอาจคิดว่าอาการเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะมาจากกระบะทรายเลยหยุดใช้กระบะทราย
สัญญาณเตือนและอาการของโรคระบบทางเดินปัสสาวะ
หากแมวของคุณแสดงสัญญาณใดๆ ของโรค FLUTD ให้ติดต่อสัตวแพทย์ของคุณทันที โดยเฉพาะหากแมวของคุณปัสสาวะติดขัด สาเหตุอาจมาจากระบบทางเดินปัสสาวะอุดตันและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณทันที
สัญญานของโรคกระเพาะปัสสาวะในแมว
- • การปัสสาวะนอกกระบะทราย (ปัสสาวะในที่ที่ไม่เหมาะสม)
- • การเบ่งปัสสาวะ
- • กลั้นปัสสาวะไม่ได้
- • ปัสสาวะบ่อยขึ้นแบบกะปริบกะปรอย
- • ปัสสาวะสีชมพู สีเข้ม หรือเป็นเลือด
- • ครางออกมาด้วยความเจ็บปวด/เปล่งเสียงในระหว่างที่พยายามปัสสาวะ
- • การเลียบริเวณอวัยวะเพศ
- • เบื่ออาหาร
- • ขาดความกระตือรือร้นหรือความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ทั่วไป
การรักษา: ความสำคัญของโภชนาการ
อาหารที่แมวของคุณกินมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและสุขภาวะที่ดีในภาพรวมของเขา อาหารแมวที่มีปริมาณแมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน และแคลเซียมสูง เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดนิ่ว สัตวแพทย์เชื่อว่าการให้อาหารแมวที่ช่วยบำรุงสุขภาพกระเพาะปัสสาวะที่มีการควบคุมปริมาณแร่ธาตุต่างๆ ดังกล่าว สามารถช่วยในการสลายนิ่วบางชนิดที่ก่อตัวในระบบทางเดินปัสสาวะของแมวได้
โภชนาการที่สมดุลมีส่วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีและกระฉับกระเฉง หากแมวของคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคระบบทางเดินปัสสาวะ คุณจำเป็นต้องให้อาหารแมวอย่างถูกต้อง โภชนาการที่ถูกต้องสามารถช่วยควบคุมระดับแร่ธาตุ รักษาค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ในปัสสาวะที่ดีต่อสุภาพ และช่วยลดการอักเสบเพื่อแก้ปัญหาทางเดินปัสสาวะอย่างปลอดภัย คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์เสมอสำหรับทางเลือกในการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง และขอคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพระบบทางเดินปัสสาวะของแมวของคุณที่สุด
วิธีอื่นๆ เพื่อจัดการกับโรค FLUTD ได้แก่
- การดื่มน้ำให้มากขึ้น
- น้ำต้องสะอาด ใหม่ และมีให้เจ้าเหมียวดื่มได้ตลอดเวลา
- การให้อาหารแบบเปียกหรืออาหารกระป๋องยังช่วยให้ร่างกายเจ้าเหมียวได้รับน้ำมากขึ้นด้วย
- ให้อาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายครั้งในระหว่างวันแทนการให้อาหารมื้อใหญ่หนึ่งหรือสองมื้อ
- ลดความเครียดในสภาพแวดล้อม
- สังเกตความเปลี่ยนแปลงในบ้านและความขัดแย้งใดๆ กับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ในบ้าน
- แมวมีความอ่อนไหวกับสภาพแวดล้อมมาก และคุณสามารถช่วยให้แมวของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ด้วยการลดสาเหตุของความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแมวที่เป็นโรค FLUTD
โอกาสที่แมวจะกลับมาเป็นโรค FLUTD มีมากแค่ไหน
โรคระบบทางเดินปัสสาวะมีโอกาสที่จะเป็นไปตลอดชีวิต แมวที่ได้รับการรักษาโรคระบบทางเดินปัสสาวะแล้วมีความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นอีก แม้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดแล้ว แมวบางตัวอาจมีโอกาสที่จะเกิดโรคซ้ำหรือกลับมาเป็นช่วงๆ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือให้แมวของคุณกินอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพระบบทางเดินปัสสาวะที่สัตวแพทย์แนะนำต่อไปเพื่อจัดการกับโรค และเฝ้าดูสัญญาณและอาการของโรคอย่างใกล้ชิด
คำถามเกี่ยวกับสุขภาพระบบทางเดินปัสสาวะที่ควรถามสัตวแพทย์
- สาเหตุที่ทำให้แมวของฉันปัสสาวะเล็ดคืออะไร ทางเลือกในการรักษาระยะสั้นและระยะยาวมีอะไรบ้าง
- อย่าลืมสอบถามว่าอาการปัสสาวะเล็ดแบบนานๆ ครั้งหรือไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรงกว่าได้หรือไม่
- สอบถามว่าปัญหานั้นมาจากพฤติกรรม สภาพแวดล้อม หรือโรค
- สอบถามว่าโภชนาการและปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับส่งผลต่อสุขภาพของแมวคุณได้อย่างไรบ้าง
- โภชนาการมีส่วนในการรักษาแมวของฉันหรือไม่ คุณหมอจะแนะนำอาหารแมว Hill’s® Prescription Diet® เพื่อสุขภาพกระเพาะปัสสาวะของแมวของฉันหรือไม่
- ถ้าฉันเลี้ยงแมวหลายตัวล่ะ ฉันสามารถให้แมวทุกตัวกินอาหารแมวแบบเดียวกันได้หรือไม่
- โภชนาการช่วยได้อย่างไร โภชนบําบัดมีประโยชน์อย่างไรเมื่อเทียบกับยารักษาโรค
- อะไรคือข้อดีและข้อเสียของการใช้โภชนาการช่วยจัดการกับสุขภาพทางเดินปัสสาวะของแมวของฉัน
- อาหารแมวแบบไหนเหมาะกับโรคทางเดินปัสสาวะมากกว่า แบบเม็ดหรือแบบเปียกดีกว่า และเพราะอะไร
- หากคุณให้อาหารแมวของคุณด้วยวิธีผสมอาหารเม็ดกับอาหารแบบเปียก ลองสอบถามว่าสามารถผสมอาหารสูตรโภชนบำบัดใดได้บ้าง
- ฉันจะต้องให้แมวของฉันกินอาหารที่คุณหมอแนะนำนานแค่ไหน
- สอบถามว่าการให้อาหารแมวแบบโภชนบำบัดสามารถช่วยให้สุขภาพทางเดินปัสสาวะของแมวดีขึ้นในระยะยาวได้อย่างไร
- หากฉันมีคำถาม ฉันจะติดต่อคุณหมอหรือโรงพยาบาลด้วยวิธีไหนดีที่สุด (อีเมล/โทรศัพท์)
- ถามว่าคุณจำเป็นต้องทำการนัดหมายเพื่อติดตามผลหรือไม่
- ถามว่าจะมีการส่งอีเมลเตือนความจำหรือหนังสือบอกกล่าวหรือไม่